เช็คลิสต์ทักษะที่ต้องมีไม่ว่าจะกี่ new normal


New Normal คืออะไร ทำไมถึงมีแต่คนพูดถึง? 

วันนี้ STF (Scenario Thailand Foundation) อยากชวนทุกคนศึกษา และทำความเข้าใจไปพร้อมกัน

เมื่อวิกฤตทำให้เกิดวิถีชีวิตประจำวันแบบใหม่ เราต้องปรับตัว เปลี่ยนแปลงตัวเองยังไงบ้าง เพื่อเอาตัวรอด และมีชีวิตที่ดีได้ แม้จะต้องผ่านกี่ New Normal ก็ตาม

New Normal หรือวิถีชีวิตใหม่ หมายถึงรูปแบบการดำเนินชีวิตอย่างใหม่ที่แตกต่างจากอดีต อันเรื่องจากมีบางสิ่งมากระทบ จนแบบแผน และแนวทางปฏิบัติที่คนในสังคมคุ้นเคยอย่างเป็นปกติ และเคยคาดหมายล่วงหน้าได้ ต้องเปลี่ยนแปลงไปสู่วิถีใหม่ ภายใต้หลักมาตรฐานใหม่ที่ไม่คุ้นเคย – รศ. มาลี บุญสิริพันธ์ คณะกรรมการบัญญัติศัพท์นิเทศศาสตร์ราชบัณฑิตยสภา

เมื่อวิธีการใช้ชีวิตของเราต้องเป็นไปในแนวทางที่เราเองก็คาดไม่ถึง เราจึงต้องวางแผนชีวิตใหม่ มาดูกันเลยว่า มีข้อไหนที่เรายังขาดตกบกพร่อง หรือข้อไหนที่เราควรรักษาไว้ และทำให้ดีกว่าเดิม! 

การเอาใจใส่ผู้อื่น – ตนเอง

ทักษะพื้นฐานข้อสำคัญที่เราทุกคนควรต้องเรียนรู้ พัฒนา ก็คือการรู้จักเอาใจใส่ผู้อื่น และตนเอง
เพราะยิ่งเรารู้จักเอาใจใส่กันและกันมากเท่าไหร่ ก็จะยิ่งสร้างคุณค่าในตัวเราให้ผู้อื่นเห็นมากขึ้นเท่านั้น และเมื่อเรารู้จักเอาใจใส่ดูแลตัวเองก่อน ก็จะช่วยให้เราเข้าใจความรู้สึกของการเป็นผู้ให้ และผู้รับได้อย่างชัดเจน
หากเราไม่เข้าใจวิธีการ ไม่เข้าใจความรู้สึกของการได้รับการเอาใจใส่ เราก็จะไม่สามารถทำแบบนั้นกับผู้อื่นได้ดีนั่นเอง!

นอน-ตื่นเป็นเวลา

เชื่อว่าทุกคน หรือหลายๆ คน มักจะละเลยกับการนอนหลับอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามที่ทำให้พฤติกรรมการนอนของคุณไม่เป็นอย่างที่ควร แต่จากการศึกษาและวิจัยจำนวนมาก แสดงให้เห็นแล้วว่า ‘การฝึกนอน และตื่นให้เป็นเวลา’ อย่างน้อย 8 ชั่วโมงนั้น สามารถเปลี่ยนชีวิตของคุณได้

คุณจะได้พบกับเช้าที่แจ่มใส และพัฒนาตัวเองได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ การได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ ยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานให้คุณได้อย่างมหัศจรรย์ด้วย!

การบริหารเวลา

หลายครั้งที่เราชื่นชมดารา ศิลปิน ไอดอล หรือใครก็ตามที่เขาสามารถทำอะไรหลายอย่างได้ภายในวันเดียว ทั้งๆ ที่ใน 1 วันของเขา ก็มี 24 ชั่วโมงเท่ากันกับเรา ก็เพราะว่าพวกเขาสามารถบริหารเวลาของตัวเองได้อย่างมีประสิทธิภาพยังไงล่ะ!

ซึ่งทักษะในการบริหารเวลา เป็นสิ่งที่ใครก็อยากมี อยากทำได้ และเป็นทักษะที่มีมูลค่าสูงที่บริษัทไหนก็ต้องการ ในเมื่อไม่มีทักษะใดในโลกที่ฝึกไม่ได้ ทักษะในการบริหารเวลา ก็ไม่ยากเช่นกัน หากเราหมั่นฝึกฝนอย่างมีวินัย และทุ่มเท

ขอความช่วยเหลือ

การขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นในเรื่องที่จำเป็นนั้น ไม่ใช่เรื่องที่เลวร้าย แต่หลายคนกลับไม่กล้า เพราะกลัวจะถูกมองว่าไร้ความสามารถ หรือไม่สามารถทำอะไรด้วยตนเองได้ 

ซึ่งหากทุกคนมองให้ดี ถ้าเราฝึกขอความช่วยเหลือให้เป็น สามารถพูดโน้มน้าวใจได้ ภาระหน้าที่หลายๆ อย่างที่บางครั้งเราไม่จำเป็นจะต้องแบกไว้คนเดียว จะมีคนยื่นมือเข้ามาช่วยอย่างเต็มใจทันที และสิ่งที่คุณต้องรับผิดชอบก็จะเบาลง

ข้อดีของการยอมขอความช่วยเหลือจากผู้อื่นคือ ความเครียดคุณจะลดลง คุณจะมีเวลาหายใจอย่างโล่งอกมากขึ้น และคุณจะมีเวลาบริหารความสามารถด้านอื่นๆ ของคุณเพิ่มด้วย  

พูดกับตัวเองเชิงบวก

การได้รับกำลังใจ คำพูดที่ดีจากผู้อื่นเป็นสิ่งที่ทำให้ใจฟูได้ แต่ไม่น้อยไปกว่าคำพูดดีๆ ที่เราให้กับตัวเองในทุกๆ วันหรอกเชื่อสิ่!

เพราะไม่สำคัญว่าคนอื่นจะมอง หรือคิดกับคุณยังไง แต่สิ่งที่คุณมอบให้กับตัวเองนั้นต่างหากที่สำคัญที่สุด ดังนั้นอย่าละเลยที่จะพูดให้กำลังใจ และชมตัวเองบ้างในสิ่งดีๆ ที่เราทำ ไม่ว่าจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ ก็ถือว่าคุณได้พยายามเต็มที่แล้ว  

ความสม่ำเสมอ

ไม่ว่าอะไรก็ตามที่คุณพยายาม ทุ่มเท และให้ความสำคัญ หากขาดความสม่ำเสมอ ก็อาจจะทำให้สิ่งที่พยายามมาตลอดนั้นล้มเหลวลงได้

ด้วยเหตุนี้ เราจึงยังเห็นเศรษฐีอันดับต้นๆ ในประเทศที่แม้จะถึงวัยเกษียณแล้ว แต่ยังทำงานหนักอย่างสม่ำเสมอ ก็เพื่อรักษาสิ่งที่สร้างมาให้คงไว้นั่นเอง

การรับฟัง

บ่อยครั้งที่เราใช้สมาธิ และต้องแยกประสาทในการทำงาน ทำนู่นนี่หลายอย่างไม่ว่าจะเป็นการตอบอีเมล ประสานงาน รับโทรศัพท์ คิดออกแบบงานต่างๆ ตลอดทั้งวันโดยที่ไม่ได้สนใจสิ่งต่างๆ รอบตัว และไม่รู้สึกเหนื่อย เป็นเพราะว่าสมองของเราสามารถทนต่อการรับข้อมูลมากๆ ได้นั่นเอง

แต่สุดท้ายก็ต้องมีจุดที่เกินจะรับไหว Nicole Lipkin ผู้เขียนหนังสือ “What Keeps Leaders Up At Night” ได้แนะนำเคล็ดลับในการฝึกรับฟังไว้ว่า ‘ให้ฝึกพูดซ้ำในสิ่งที่ได้ยินจากคนอื่น เพราะเมื่อทุกคนคิดและเข้าใจตรงกัน ทุกสิ่งทุกอย่างก็จะง่ายขึ้น’ ดังนั้น หากไม่อยากพลาด Topic เด็ดๆ ขณะที่คนอื่นในออฟฟิศพูดคุยกัน ก็ลองใช้วิธีนี้ดู! 

รู้ว่าเมื่อไหร่ควร – ไม่ควรพูด

ทุกคนรู้ดีว่า การพูดทุกอย่างที่คิดโดยไม่ระวังคำพูดนั้นสามารถส่งผลเสียทั้งต่อตนเอง และผู้ฟังได้ และคุณก็อาจเคยเห็นกรณีที่ผู้พูดไม่ระวังคำพูด จนทำลายชีวิตเขาเองด้วยคำพูดตนเองมาแล้ว

ดังนั้นการเก็บคำพูดไว้กับตัวเองจึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการรักษาภาพลักษณ์ และทำให้คุณเป็นคนน่าเชื่อถือมากขึ้นได้ด้วย 

เพราะเมื่อเราอยู่ในอารมณ์โกรธ โมโห เศร้า เสียใจ กระวนกระวายใจ หรือในความรู้สึกใดก็ตาม เรามักจะเผลอ เปิดเผยสิ่งที่เกิดขึ้นในใจออกมาโดยไม่รู้ตัว แล้วค่อยมาเสียใจกับคำพูดของตัวเองภายหลัง ดังนั้น เราทุกคนจึงควรฝึกเก็บคำพูด ไม่แสดงออกในขณะที่อารมณ์ไม่ปกติให้ได้ เพื่อตัวเรา และคนรอบข้างนั่นเอง!

เลิกนินทาว่าร้าย

สิ่งสำคัญอย่างหนึ่งในชีวิตของเราทุกคนก็คือ ‘ความสัมพันธ์’

ซึ่งสิ่งที่สามารถสร้างความสัมพันธ์ในชีวิตของเราก็คือ ‘ความไว้วางใจ’

เมื่อเรามีความสัมพันธ์อันดีกับเพื่อนร่วมงาน เพื่อนร่วมชั้นเรียน หรือกับใครก็แล้วแต่ ด้วยความไว้วางใจต่อกัน แต่ท่ามกลางความสัมพันธ์นั้น กลับมีการ ‘ซุบซิบนินทา’ ก็เตรียมทำใจได้เลยว่า ความสัมพันธ์ ที่สร้างมาด้วยความไว้วางใจนี้ จะต้องจบลงแน่นอน

เพราะการนินทาว่าร้าย เป็นพฤติกรรมหนึ่งที่ทำให้ทุกคนสูญเสียความไว้ใจ เราทุกคนจึงควรเรียนรู้ที่จะไม่ซุบซิบนินทาใครก็ตาม หลายคนอาจจะบอกว่ามันทำยาก ให้เลิกนินทากันน่ะ ในสังคมมันก็ต้องมีบ้างแหละ คุณอาจจะต้องเลือกที่จะเลิกคบกับคนแบบนั้นไปเลย เพราะเราสามารถเลือกที่จะไม่นินทาใครลับหลังได้ โดยการชวนกันพูดคุยเรื่องอื่นแทน นอกจากจะเป็นการทำสิ่งที่ถูกต้องแล้ว คุณจะเป็นคนที่ได้รับความไว้วางใจด้วย

มีความสุขกับปัจจุบัน

แม้ชีวิตจะต้องพบเจอกับปัญหาถาโถม วิกฤตมากมาย แต่สิ่งสำคัญที่ทำให้เรายังมีชีวิตอยู่ได้คือ “การมีความสุขกับปัจจุบัน” ซึ่งหลายคนที่อาจรู้สึกไม่ค่อยดีนักกับปัจจุบันของตนเอง ณ ตอนนี้ แต่การใช้เวลาส่วนใหญ่ในชีวิตเพื่อคิดถึงสิ่งอื่นนอกเหนือจากสิ่งที่กำลังเผชิญอยู่ตรงหน้า จะยิ่งทำลายความสุขที่ควรจะเกิดขึ้น 

เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว เราก็อยากให้ทุกคนให้ความสำคัญกับสิ่งที่ทำอยู่ตรงหน้า และมองหาความสุขจากสิ่งนั้นให้เจอ เพื่อที่เราจะได้มีความสุขกับปัจจุบันนั้นได้

ควบคุมความคิดตัวเอง

คนที่พลาดมากที่สุดไม่ว่าจะทำอะไรก็ตาม คือคนที่ขาดสติ เหมือนกับเวลาที่คุณดื่มแอลกอฮอล์แล้วขาดสติ คุณจึงไม่ควรขับขี่ยานพาหนะนั่นแหละ 

เพราะปัจจุบันของเรา ล้วนเป็นผลลัพธ์จากการกระทำในอดีตทั้งสิ้น ดังนั้นให้มองอนาคตให้ชัดเจน วางแผนให้ดี และฝึกควบคุมความคิดของตัวเองให้ได้ เมื่อมีสติที่เข้มแข็ง สิ่งที่เราโฟกัสนั้นจะคอยเตือนใจเราเสมอว่า กำลังทำอะไรอยู่ และทำไปเพื่ออะไร เมื่อเราสามารถทำปัจจุบันได้อย่างดีแล้ว เราจะไม่ต้องกังวลถึงอนาคตอันใกล้ และอันไกลเลย

เรียนรู้ภาษาใหม่ๆ

สำหรับคนที่ไม่เก่งด้านภาษา การสามารถทำความเข้าใจ และเรียนรู้ภาษาอื่นๆ ได้ นับเป็นสิ่งที่น่าประทับใจมาก ดังนั้น หากคุณมีโอกาสในการเรียนรู้ภาษาต่างๆ มีความพยายาม ทุ่มเทที่จะเรียนรู้ภาษาใหม่ๆ ก็ขอให้คุณทำมันได้สำเร็จ เพราะทักษะด้านภาษานี้ ไม่เพียงเปิดโอกาสให้คุณได้พูดคุย และได้พบกับโอกาสใหม่ๆ ในชีวิตเท่านั้น แต่ยังได้เรียนรู้วัฒนธรรมที่แปลก แตกต่างไป และสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตได้ด้วย

กล้าพูด

ใครที่ไม่กล้าพูด หรือไม่มีความมั่นใจเมื่อต้องพูดต่อหน้าคนมากมาย เราขอเป็นกำลังใจให้ด้วยประสบการณ์จาก

นักลงทุนระดับโลกอย่าง Warren Buffett ซึ่งเขาได้บอกเล่าเรื่องราวความพยายามของเขาไว้ว่า ‘เขาเคยกลัวการพูดในที่สาธารณะมากๆ เพราะเวลาเขากลัว เขาจะตื่นเต้นจนอาเจียนออกมา’ แต่ในที่สุด เขาก็สามารถเอาชนะความกลัวนี้ได้ด้วยการ ‘ฝึกซ้อมอย่างสม่ำเสมอ และลงมือทำ’ 

ดังนั้นแม้จะมีความกลัวเกิดขึ้น ก็อย่าเลี่ยงที่จะเผชิญกับมันล่ะ

ซื่อสัตย์ต่อตนเอง – ผู้อื่น

ใครๆ ก็ชอบที่จะได้รับความซื่อสัตย์ ดังนั้น ก็อย่าลืมที่จะซื่อสัตย์ต่อผู้อื่นด้วยเช่นกัน แต่หากไม่เข้าใจว่าต้องทำอย่างไรถึงเรียกว่าซื่อสัตย์ อธิบายอย่างง่ายก็คือ การเปิดใจ ยอมรับความจริงในชีวิต และสื่อสารสิ่งที่เป็นความจริง ทั้งกับตนเองและผู้อื่น เรียนรู้ข้อผิดพลาดในชีวิตอย่างตรงไปตรงมา และพัฒนาตนเองในด้านที่ดีอยู่เสมอนั่นเอง 

ความจริงจะช่วยให้เราได้รับสิ่งดีๆ มากมาย และการยอมรับความจริงจะทำให้ชีวิตของเราได้พบเจอแต่สิ่งที่ดี

ทบทวนตัวเองใหม่ วางแผนชีวิตใหม่ เพื่อตอบรับกับวิถีชีวิตประจำวันแบบใหม่ไปพร้อมกัน

เติมทักษะที่ดีให้ตัวเองอยู่เสมอทุกคนทำได้ !!

Scenario Thailand Foundation เราพร้อมสนับสนุนทุกคนที่อยากเปลี่ยนแปลง เพื่อรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน

#ScenarioThailand #Prepare4theFuture