เคยสงสัยหรือไม่ว่า ทำไมเราจึงไม่เคยเห็นปลาปีนต้นไม้ หรือ กิ้งก่าว่ายน้ำ นั่นก็เพราะว่ามันถูกสร้างมาเพื่อให้มีความสามารถเฉพาะที่แตกต่างกันยังไงล่ะ!
มนุษย์เราก็เป็นเช่นนั้น คนคิดเลขเก่ง อาจจะไม่ได้เก่งภาษา และคนที่เก่งด้านภาษา ก็อาจจะไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกาย ใช้ภาษาท่าทางได้แบบนักแสดง หรือหลายคนก็อาจจะมีความสามารถที่หลากหลาย
เมื่อเราทุกคนมีความสามารถเฉพาะอย่างที่แตกต่างกัน จึงทำให้วิธีการเรียนรู้ของแต่ละคนแตกต่างกันไป รวมกันแล้วก็เปรียบเสมือนสายรุ้งหลากสี มีหลากหลายบุคลิก และรสนิยม สิ่งนี้เรียกว่า ‘ความแตกต่างทางปัญญา’
ดร. โฮเวิร์ด การ์ดเนอร์ (Howard Gardner) ผู้ก่อตั้งทฤษฎีพหุปัญญา ได้ให้คำจำกัดความของคำว่า “ปัญญา” ไว้ดังนี้
“ปัญญา คือความสามารถที่จะค้นหา และแก้ปัญหา และสร้างผลผลิตที่มีคุณค่าเป็นที่ยอมรับในสังคม”
ซึ่งความสามารถทางปัญญาของมนุษย์ตามทฤษฎีนี้ แบ่งออกได้เป็น 8 ด้าน
STF (Scenario Thailand Foundation) อยากชวนทุกคนสำรวจตัวเองไปพร้อมๆ กัน มาดูกันว่า ตัวเองถนัดด้านไหนเป็นพิเศษ ด้านไหนที่รองลงมา หรือด้านไหนที่เราสามารถทำได้ดีไม่แพ้กันเลย เพื่อจะได้วิเคราะห์ และวางแผนอนาคตให้กับตัวเอง ‘ชีวิตเรา เราต้องเป็นคนออกแบบ’!
ปัญญาด้านภาษา (Linguistic Intelligence)
ลักษณะ และจุดเด่นของคนที่มีความถนัดในกลุ่มนี้ จะมีนิสัยรักการอ่าน ชอบพูด ชอบเขียน สามารถเล่าเรื่องต่างๆ ได้ดี หรือบางครั้งจะได้ยินเสียงของคำก้องอยู่ในหูก่อนที่จะได้อ่าน พูด หรือเขียนเลยก็เป็นได้!
รวมถึงมีความสามารถในการจดจำที่ดีเยี่ยม เจ้าบทเจ้ากลอน มีอารมณ์ขัน เป็นคนตลก ชอบพูดเล่นคำ สำบัดสำนวน และชอบศึกษาเรื่องเกี่ยวกับภาษา ประวัติศาสตร์ มากกว่าวิชาอื่นๆ
ปัญญาด้านตรรกะ และคณิตศาสตร์ (Logical-Mathematical Intelligence)
ใครที่ชอบการทดลอง ชอบแก้ปัญหา สนุกกับการได้เจอตัวเลข หรือเกมที่ต้องใช้ความคิดเยอะๆ มีแนวโน้มที่จะมีความถนัดเฉพาะตัวในด้านนี้
นิสัยส่วนตัว มักจะชอบทำอะไรที่ใช้ทักษะ และเหตุผล เช่น การซักถามปัญหาที่ต้องคิดเชิงเหตุผลเยอะ แต่ด้วยความที่มีความคิดเชิงตรรกศาสตร์ ทำให้เป็นคนชอบทำตามคำสั่งเสียมากกว่า เพราะสามารถทำอะไรที่เป็นระบบระเบียบตามลำดับขั้นตอนได้ดี ชอบค้นหาเหตุผลมาหักล้าง หรือ การใช้ความคิดเชิงวิพากษ์วิจารณ์ทุกสิ่งรอบตัว เป็นต้น
ปัญญาด้านมิติสัมพันธ์ (Visual-Spatial Intelligence)
คนที่มีความโดดเด่นในด้านนี้ จะเห็นได้ชัดจากการแสดงออกทางด้านศิลปะ ความคิดสร้างสรรค์ ไม่ว่าจะเป็นการบันทึกเรื่องราวผ่านภาพถ่าย หรือภาพวาด มักมีนิสัยชอบวาดเขียน ชอบฝันกลางวัน แค่หลับตาก็สามารถเห็นภาพความคิด จินตนาการถึงสิ่งต่างๆ ได้แล้ว!
นอกจากนี้ ยังสามารถอ่านแผนภาพ แผนภูมิ หรืออ่านแผนที่ได้ดีด้วย เพราะคนกลุ่มนี้มีความสามารถในการมองสิ่งที่เป็นภาพ เข้าใจเรื่องมิติสัมพันธ์ได้นั่นเอง
ปัญญาด้านร่างกาย และการเคลื่อนไหว (Bodily-Kinesthetic Intelligence)
คนที่ชอบการเคลื่อนไหว อยู่นิ่งแล้วจะไม่สบายใจ เวลาพูดคุยต้องมีการใช้ท่าทาง และชอบสัมผัสผู้อื่นขณะพูดคุยด้วย หากเป็นนักกีฬา ก็จะทำได้ดีเยี่ยม เป็นกลุ่มคนที่มีความกระตือรือร้นสูง ชอบเต้นรำ เล่นละคร หรือแสดงบทบาทสมมติ
มีนิสัยที่ชอบทำอะไรด้วยตนเองมากกว่าที่จะขอความช่วยเหลือจากผู้อื่น บุคลิกเป็นคนเสียงดัง และมีพลังล้น ชอบที่จะได้แสดงออกโดยการใช้ร่างกาย ชอบเล่นอะไรโลดโผน หวาดเสียว เพราะจะได้ปลดปล่อยพลังอันเหลือเฟือของตนนั่นเอง!
ปัญญาด้านดนตรี (Musical Intelligence)
คนที่มีความถนัดในด้านนี้ อย่างที่เรานิยมเรียกกันว่า มีความเป็นศิลปินสูง คือ มักจะชอบร้องรำทำเพลง ชอบเล่นดนตรี ชอบเสียงต่างๆ ชอบธรรมชาติ และมีความสามารถในการแยกแยะเสียงแต่ละประเภทได้ดี ไม่ว่าจะเป็นท่วงทำนอง จังหวะ หรือเสียงประกอบ
คนกลุ่มนี้จะอยู่นิ่งไม่ได้ เราจึงเห็นพวกเขาเคาะโต๊ะ ขยับตัว ผิวปาก ฮัมเพลง หรืออื่นๆ ตามจังหวะอยู่เสมอ เพราะพวกเขาจะมีเพลงเล่นในใจ หรือบางครั้งก็จะได้ยินเสียงเพลงดังก้องอยู่ในหูตลอดเวลาด้วย!
ปัญญาด้านมนุษย์สัมพันธ์ (Interpersonal Intelligence)
เวลาเห็นคนรอบตัว หรือใครก็ตามที่เขาสร้างปฏิสัมพันธ์กับคนอื่นๆ มีเพื่อนใหม่ได้ง่ายมาก อาจเป็นเพราะคนคนนั้นมีปัญญาด้านมนุษย์สัมพันธ์นั่นเอง!
คนกลุ่มนี้จะชอบการมีเพื่อนเยอะๆ ได้พบปะ สังสรรค์กับผู้คนมากมาย ชอบการได้เป็นผู้นำ ชอบแสดงออก และจะดีใจมากหากมีผู้ทำตาม หรือเห็นด้วยกับไอเดียตัวเอง แถมยังมีความสามารถในการอ่านกิริยาท่าทาง เข้าใจผู้อื่นได้ดี เหมาะกับการทำงานด้านการประสานงาน เพราะเขาพูดชักจูงได้ดีเยี่ยม และวันหยุดคนกลุ่มนี้จะไม่มีทางอยู่บ้านคนเดียวแน่นอน
ปัญญาด้านความเข้าใจตนเอง (Intrapersonal Intelligence)
เชื่อว่าทุกคนต้องมีปัญญาในด้านนี้ที่ทำให้เข้าใจความเป็นตัวเอง เข้าใจความต้องการของตนเองแน่นอน แต่ว่าก็มีคนกลุ่มหนึ่งที่เรียกว่า มีความตระหนักรู้ในตัวเองสูงกว่าผู้อื่น
คนกลุ่มนี้จะชอบอยู่ลำพังคนเดียวเงียบๆ และใช้เวลาส่วนใหญ่ในการคิด ทบทวนเรื่องราวเกี่ยวกับตนเอง ชอบที่จะติดตาม ศึกษาในสิ่งที่ตนเองให้ความสนใจ และมีแรงจูงใจในเรื่องนั้นเป็นพิเศษ ข้อดีของคนกลุ่มนี้คือ ไม่ยึดติด มีอิสระในความคิด รู้ตัวว่ากำลังทำอะไร และพัฒนาความรู้สึกนึกคิดอยู่เสมอ ทำให้เข้าใจตนเองมากกว่าคนทั่วไป พวกเขามักหมกมุ่นอยู่กับความรู้สึก ความคิด และการแสดงออกของตนเอง และชอบทำอะไรด้วยตนเองมากกว่าการขอความช่วยเหลือ
ปัญญาด้านธรรมชาติวิทยา (Naturalist Intelligence)
คนที่เห็นอะไรก็น่าเอ็นดู น่ารักไปหมด ไม่ว่าจะสัตว์น้อยใหญ่ หากผ่านสายตาคนกลุ่มนี้ ต่อให้สัตว์นั้นจะดุร้ายแค่ไหน ก็กลายเป็นน้องได้!
คนกลุ่มนี้ให้ความสนใจกับธรรมชาติรอบตัว และสิ่งแวดล้อมมาเป็นอันดับต้นๆ ในการดำเนินชีวิต แต่ก็สนใจความเป็นไปในสังคมรอบตัวด้วยเช่นกัน ชอบศึกษาเรื่องราวของมนุษย์ การใช้ชีวิต จิตวิทยา เข้าใจธรรมชาติของพืช และสัตว์เป็นอย่างดี เป็นคนที่ไวต่อความรู้สึก การเปลี่ยนแปลงของดิน ฟ้า อากาศ และสามารถปรับตัวเข้ากับสิ่งต่างๆ ได้ดี มีความรู้รอบตัวไม่น้อยเลยด้วย
ปัญญาด้านต่างๆ ที่ได้รับการจัดกลุ่มนั้น เป็นเพียงมุมหนึ่งเท่านั้น เพราะความแตกต่างของมนุษย์มีมากมาย ดังนั้น เมื่อเรารู้ และเข้าใจตนเองว่าเราถนัดอะไร ชอบอะไร หรือมีความชำนาญด้านไหนแล้ว เราก็จะสามารถเลือกวิธีการเรียนรู้ให้เหมาะสมกับตนเอง และพัฒนาสิ่งที่เรามีนั้นให้ก้าวไกลได้ถูกวิธี
ค้นหาความถนัด และสิ่งที่เป็นตัวเองให้เจอ เส้นทางชีวิตจะเป็นเรื่องง่าย
Scenario Thailand Foundation เราพร้อมสนับสนุนทุกคนที่อยากเปลี่ยนแปลง เพื่อรับมือกับอนาคตที่ไม่แน่นอน